สโมสรเค้าเมพขิงๆ TottenhamhotSpurs

หึ หึ หึ ชื่อกะบอกอยู่แล้วสโมสรเค้าเมพ 5 5 5 +

http://www.spursthailand.net/ <<<<<<<<<<< เข้าเว็บบอร์ดดูได้ เมพขิงๆ



ปล.อยู่กะป๋านี้ต้องทันเหตุการณ์นะ

เงียบจิงเลยของเราเนี้ย ปั้มกระทู้แม้ม

คงไม่โดนข้อหามั้งนะ 5 5 5 +

ปล. ร้างแล้ว~

น่าสงสาร

หาประวัติมาแปบกุสิ

เพื่อคนจะได้โพสเยอะขึ้น

เอ่ออ~ กุไม่สามมารถเท่าเมิงหรอกไปบอกไอแจ็คนู้น-*-

หึแจ๊ค

สับไก่รายตัว ->เจอร์เมน จีนัส
กลับมาสับไก่กันต่อ วันนี้ถึงคิว "ไอ้โจ้ " จีนัส ของทีมเรากันครับ ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเปลี่บนโค้ชไปกี่คน มันก็ยังได้โอกาสเสนอหน้าลงเล่นอยู่เสมอ ถึงแม้ฟอร์มจะไม่ได้ดีเด่อะไรแต่ตอนนี้ก็ปล่อยวางกับมันไปเยอะแล้ว บางทีอาจะเป็นเพราะว่าเลิกคาดหวังกับมันไปแล้วครับ ไม่เถียงครับว่ามันเป็นนักเตะที่มีความสามรถคนนึง แต่ไม่ใช่คนที่เหมาะสมสำหรับสเปอร์ส

เมื่อก่อนนี้ ก่อนการมาของ โมดริช หลังการจากไปของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ไอ้โจ้ ได้รับการสถานปนาให้การเป็นศูนย์กลางของทีม เป็นตัวทำเกมคนสำคัญในแดนกลาง แถมยังเคยได้รับโอกาสให้เป็นกัปตันทีนในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมาอีกด้วย เราคงประจักษ์แล้วว่า ทีมเราไม่ได้ประโยชน์อะไรจาก ไอ้โจ้ แม้แต่นิดเลย

การผ่านบอล การจ่ายบอลยาว หรือลูกคิลเลอร์พาส อย่าไปคาดหวัง ฟรีคิกก็นานๆที ผมจำไม่ได้แล้วว่า มันยิงเข้าไปล่าสุดเมื่อไหร่ แต่กับการเล่นในฤดูกาลนี้ ไอ้โจ้ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมายสำหรับการทำเกม เป็นนักเตะสไตล์นินจาที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากนัก เมื่อเกมรุกไปสยบอยู่แทบเท้า โมดริช และการเล่นของ เลนน่อน

ไอ้โจ้ก็แค่วิ่งประคองไปมา แปะบอล ประคองตัวไป มีโอกาส ก็ลากเลื้อยให้ฮือฮาสักที ปีนี้ ไอ้โจ้ลงเล่นไปทั้งหมด 39 นัด โดยเป็นการเล่นในพีเมียร์ลีก 32 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 4 นัด ) ยิงไป 4 ลูก ได้ไป 7 เหลือง เล่น คาร์ลิ่ง คัพ ไป 3 นัด และฟุตบอลยุโรปอีก 4 นัดในปีนี้

ฟอร์มการเล่นก็เสมอตัว ไม่มีอะไรเสียหายและไม่มีอะไรน่าจดจำนักสำหรับไอ้โจ้สำหรับผมในฤดูกาลนี้

ประเมินเกรดที่ได้ : B-

สับไก่รายตัว ->เดวิด เบนท์ลีย์
หมดการสับไก่ชุดกองหลังไปแล้ว ไล่มาถึงกองกลางบ้าง ส่วนพวกตัวสำรองที่ไม่ค่อยได้ลง แยกไว้ที่หลังก็แล้วกันนะครับ คิวแรกของกองกลางลับมีดไว้รอนานแล้วครับสำหรับ เดวิด เบนท์ลีย์

น่าเสียดายที่ครับปีนี้ เดวิด เบนท์ลีย์ฟอร์มตกลงไปเยอะมากหลังจากย้ายมาร่วมทีมเราด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 15 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายก็เจอความกดดันจากค่าตัวอันมหาศาลนั้นโถมทับตัวเอง จนไม่สามาถเรียกฟอร์เก่งกลับมาได้ ทั้งๆที่ได้กลับมาเล่นให้กับทีมรักในวัยเด็ก

ในช่วงแรกที่ย้ายมาก็น่าเห็นใจ เบนท์ลีย์ เหมือนกันนะครับ เพราะ รามอส จับแกโยกไปเล่นตรงโน้นที ตรงนี้ที่ เดี๋ยวปีกซ้าย เดี๋ยวปีกขวา เดี๋ยวมิดฟิลด์ตัวกลาง เดี๋ยวหน้าต่ำ หรือ บางที ไปยืนแบ็คขวาก็โดนมาแล้ว พอช่วงหลังที่ เร้ดแนปป์ มาคุมทีมในช่วงแรกก็ได้ลงเล่นอยู่ยบ้าง ถึงแม้จะต้องสลับซ้าย-ขวากับ เลนน่อน อยู่บ่อยๆ

แต่พอช่วงหลังทีมเริ่มลงตัว ในระบบ 4-4-2 มี เลนน่อน ทางขวา โมดริช ทางซ้าย เบนท์ลีย์ ก็แทบจะกลายเป็นส่วนเกินไปเลย นั่งแทบจะตูดด้านจนเกือบจบฤดูกาล

จุดเด่นของ เบนท์ลีย์ คือ ลูกครอส และการยิงไกลที่ทำได้ดี แต่ในปีนี้ หากไม่นับลูกสุดสวยประจำฤดูกาลที่ยิงลูกใบไม้ร่วงใส่ไอ้เน่าแล้ว นอกนั้นผมนึกแทบไม่ออกว่ามีลูกไหนอีก ทำให้ทีเด็ดการยิงประตูตกลงไปมาก ปีที่แล้ว เล่นให้ แบล็คเบริน์ ยิงไปถึง 9 ลูก

ปีนี้ เบนท์ลีย์ลงเล่นไปทั้งหมด 36 นัด โดยเล่นในลีกไป 25 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 6 นัด) ยิงได้ 1 ประตู มี 4 ใบเหลือง เอฟเอคัพ ได้ลง 2 นัด คาร์ลิ่ง คัพ 3 นัด(สำรองเปลี่ยนลงมา 1 นัด) และเล่นฟุตบอลยุโรป 5 นัด ยิงได้ 1 ประตู

ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่ เบนท์ลีย์ ยังไม่สามารถเรีกฟอร์มเก่งกลับมาได้ แถมคู่แข่งอย่าง เลนน่อน ก็กลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง ทำให้เป็นเรื่องยากเหลือเกินสำหรับการแย่งตำแหน่งตัวจริงของทีม

ประเมินเกรดที่ได้ : F

สับไก่รายตัว ->แอรอน เลนน่อน
มาต่อกันครับ ซีรีย์นี้ยังไม่จบครับ อย่าพึ่งเบื่อไปซะก่อน วันนี้ถึงคิวปีกขวาของเราอีกคนคือ แอรอน เลนน่อน ปีกความเร็วสูงที่มีส่วนสำคัญกับเกมของทีมในช่วงที่ผ่านมา จนกลายเป็นคนถีบ เดวิด เบนท์ลีย์ตกกระป๋องไปเลย

ในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากทีมเราซื้อ เดวิด เบนท์ลีย์ มาร่วมทีม ใครๆก็คาดคิดว่าเวลาของ เลนน่อน น่าจะหมดลงไปแล้ว เพราะฟอร์มในช่วงนั้นของ เลนน่อน ยังตอบโจทย์ของทีมเราไม่ได้

ในช่วงแรกของ ฤดูกาล ฟอร์มก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ เพราะต้องสลับกันลงเล่นกับ เบนท์ลีย์ และไปเล่นทางซ้ายซะเป็นส่วนใหญ่ จน เลนน่อน ได้กลับมาเล่นตำแหน่งเดิมอีกครั้ง คือ ปีกขวา และเริ่มกลับมาทำผลงานได้สุดยอดอีกครั้ง ด้วยทักษะการเลี้ยงบอล และความเร็วแบบจรวดเรียกพี่ ทำให้ ฟอร์มในฤดูกาลนี้ของ เลนน่อน แจ่มกว่าทุกซีซั่นที่ผ่านมา กลายเป็นตัวหลักของทีม เป็นอาวุธเด็ดที่ใครๆ พากันยำเกรง

ปีนี้ เลนน่อน ได้ลงเล่นถึง 47 นัด โดยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 35 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 9 นัด) ยิงไป 5 ลูก ได้ 3 เหลือง เอฟเอ คัพ 1 นัด เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงมา คาร์ลิ่ง คัพ 5 นัด และฟุตบอลยุโรป 6 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 2 นัด)

ผลงานในปีนี้ต้องถือว่า เลนน่อน โชว์ฟอร์เด่นเกินหน้าเพื่อนร่วมทีมมาก เป็นส่วนสำคัญของทีมที่แทบขาดไม่ได้ ถึงแม้จะต้องปรับปรุงเรื่องการเปิดบอลและความเหี้ยมในการยิงประตูมากกว่านี้ แต่ต้องถือว่าผลงานติดท๊อปของห้องงไปเลย

ประเมินเกรดที่ได้ : A

สับไก่รายตัว -> เกเร็ธ เบล
กลับมาสับไก่กันต่อครับ พยายามจะเร่งให้จบเพราะกลัวคนอ่านจะเบื่อไปซะก่อนวันนี้ มาถึงคิวดาวรุ่งที่ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นดาวร่วงอีกคนหรือเปล่าคือ เกเร็ธ เบล แบ็คซ้ายดาวรุ่งทีมชาติเวลล์

ต้องบอกว่าปีนี้นับเป็นปีที่ผิดหวังเอามากๆสำหรับ เกเร็ธ เบล ต้องยอมรับว่านอกจากหน้าตาที่ดูคล้าย ดาร์รน แอนเดอร์ตัน ปีกกระดูกยุงรุ่นพี่ใรทีมแล้ว อาการบาดเจ็บแทบจะถอดกันมาเลยทีเดียว เกเร็ธ เบล เจออาการบาดเจ็บซ้ำซากจนไม่สามารถเรีกฟอร์มเก่งกลับมาได้เหมือนเดิมอีกเลย

โดยปีนี้ได้ลงเล่นไป 30 นัด โดย เล่นในพีเมียร์ลีก 16 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 4 นัด) ได้ไป 4 เหลือง 1 แดง เอฟเอคัพ 2 นัด คาร์ลิ่ง คัพ 5 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 2นัด) และฟุตบอลยุโรป 7 นัดด้วยกัน

ฟอร์มการเล่นของ เบล ในปีนี้ ดร๊อปลงไปมากจนโดน เอก๊อตโต้ ยึดตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริงไป ทำให้ บางครั้งโดนจับไปเล่นปีกซ้ายแทน ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีกับ เบล ที่สามารถเล่นเกมรุกโดยไม่ต้องห่วงเกมรับมากนัก แต่ เบล ในปีนี้บอกได้คำเดียวว่าจังหวะกล้าเล่น กล้าเลื้อย ทะลุทะลวง ลูกครอสและฟรีคิกที่เคยเป็นจุดเด่นหายไปหมดเลย น่าผิดหวังเอามากๆ

เบลกำลังสูญเสียความมั่นใจจาการร้างสนามไปนาน แถมเจอกดดันด้วยอาถรรพ์ เมื่อลงเล่นในลีกแล้วทีมไม่ชนะอีก ทำให้ปีนี้ไม่ใช่ปีของ เกเร็ธ เบล เลย แต่อย่าลืมว่า เบล อายุแค่ 20 ปีเท่านั้นยังมีเวลาให้พัฒนาอีกไกล หวังว่าปีหน้าจะกลับมาแก้เกรดใหม่

ประเมินเกรดที่ได้ : F

สับบไก่รายตัว ->เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้
หากจะนับนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้เตะตาแฟนบอลมากที่สุดในฤดูกาลนี้ ชื่อของ เอก๊อตโต้ คงต้องติดอยู่ในในรายชื่อเหล่านั้นแน่ๆ ด้วยผลงานที่สุดแสนจะประทับใจในฤดูกาลนี้

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเราเมื่อปี 2006 ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์พร้อมพกดีกรีดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปี ลีกเอิง ของฝรั่งเศสมาด้วย เอก๊อตโต้ แทบไม่เคยโชว์ฟอร์มได้ประทับใจแฟนบอลเลยจนกระทั่งซีซั่นที่ผ่านมา

เนื่องจากที่ผ่านมา เอก๊อตโต้มีปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งและยาวนาน จนแฟนบอลชักจะลืมไปแล้วว่ามีนักเตะคนนี้ในทีม แถมยามเมื่อได้รับโอกาสลงเล่นก็มักจะชอบโชว์การเล่นลูกยากๆ และทำเรื่องง่ายๆให้การเป็นเรื่องยากเป็นประจำ จนทำให้ดูป็นเหมือนบ่อน้ำมันของทีม

แต่ในฤดูกาลนี้ เอก๊อตโต้ กลับมาโชว์ฟอร์มเด่นอีกครั้ง เมื่อสามารถเรียกความมั่นใจ และการเล่นที่แน่นอนกลับมา จนสามารถเบียด เกเร็ธ เบล ไอ้หนูดาวรุ่งค่าตัวแพงไปนั่งข้างสนามแทบจะตลอดทั้งฤดูกาล

ปีนี้ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 36 นัด ได้ไป 4 เหลือง 2 แดง โดยเล่นในพรีเมียร์ลีก 29 นัด ( สำรองเปลี่ยนลงมา 1 นัด)ได้ไป 3 เหลือง 1 แดง เล่น เอฟเอ คัพ 1 นัด คาร์ลิ่งคัพ 4 นัด มี 1 เหลือง และลงเล่นในฟุตบอลยุโรป อีก 2 นัด ( สำรองเปลี่ยนลงมา 1 นัด )

ในฤดูกาลที่ผ่านมา เอก๊อตโต้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของร่างกายที่วิ่งไม่มีหมดทั้งเกม การแทคเกิ้ลตัดบอลสวยๆ และการเติมเกมรุกที่ช่วยทีมทางฝั่งซ้ายได้เป็นอย่างดี มีส่วนให้ทีมมีผลงานดีขึ้นในช่วงหลังอย่างเห็นได้ชัด จนต้องถือว่าเป็นนักเตะคนนึงที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอทั้งฤดูกาลอีกคน ถึงแม้จะมีลูกฟาล์วโง่ๆกลับมาให้เห็นบ้างก็ตาม

ประเมินเกรดที่ได้ : A

สับไก่รายตัว -> เฮเรลโญ่ โกเมส
กลับมาอีกครั้งสำหรับสับไก่รายตัว เหมือนทุกคราวที่ผ่านมา เมื่อจบฤดูกาลเราจะมาชำแหละผลงานนักเตะไก่กันทีละคน ทีละตำแหน่งกันครับ แต่ต้องออกตัวไว้ก่อนนะครับ ว่ามองตามมุมองผม อาจจะเห็นแย้งหรือต่างไปจากท่านอื่นบ้าง แต่สามารถร่วมถกแสดงความเห็นกันและช่วยให้เกรดกันได้ครับ
เริ่มที่นักเตะคนแรกคือ ผู้รักษาประตูของเรา เฮเรลโญ่ โกเมส ผู้รักษาประตูชาวบราซิลที่ย้ามามาร่วมทีมเมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยค่าตัวเกือบ 9 ล้านปอนด์ โดยย้ายมาจาก พีเอสวี ไฮน์โฮเฟ่น ทีมชั้นนำจากลีกฮอลแลนด์หลังจากโชว์ฟอร์มสุดยอดกับ พีเอสวีแล้ว เฮเรลโญ่ โกเมส ก็ถูกดึงตัวมาร่วมทีม หลังทีมเราตัดสินใจปล่อย พอล โรบินสัน ออกไป

ท่ามกลางความคาดหวังและค่าตัวมหาศาลที่ได้รับ ทำให้ โกเมส ได้รับการจับตามาตลอดตั้งแต่ช่วงเปิดซีซั่น นักเตะจากแดนบราซิลผู้นี้เจอปัญหาความความหนักหน่วงและบอลโด่งสไตล์อังกฤษเข้าไปตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาล ประสบกับปัญหาการมีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง และการต้องการพิสูจน์ตัวเองให้เห็น ทำให้โชว์ความผิดพลาดบ่อยครั้งในช่วงแรก
บางครั้ง ชอบออกมาเล่นลูกเสี่ยงๆ เป็นประจำเป็นผลให้ทีมเสียหายและประกอบกับผลงานของทีมในช่วงเปิดฤดูกาลโชว์ฟอร์มได้ห่วยแตก ทำให้ โกเมส พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย และทั้งความคาดหวังไว้สูงของเหล่าแฟนบอล ทำให้ โกเมส เล่นด้วยความกดดัน ขาดความมั่นใจ ทำให้ทุกคนเชื่อว่า โกเมส คงไม่สามารถเอาตัวรอดจากฟุตบอลอังกฤษได้แน่นอน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากได้ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ เข้ามาคุมทีม พร้อมดึงตัว คาร์โล คูดิชินี่ เข้ามากดดัน โกเมส มีผลให้ โกเมส ปรับตัวและเริ่มมีพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด เร้ดแนปป์ ดึงตัว โทนี่ ปาร์ค โค้ช ผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาแทนที่ ฮานส์ เลเทิร์ท โค้ชนายทวารชาวออสเตรีย ที่โดนปลดฟ้าผ่าไปพร้อมกับ ฆวนเด้ รามอส

การมีโค้ชผูรักษาประตูที่เข้าใจฟุตบอลอังกฤษอย่าง โทนี่ ปาร์ค มีผลให้ โกเมส สามารถเรีกความมั่นใจกลับมาได้มากกขึ้น อีกทั้ง แฮรี่ เร้ดแนนป์ ยังแสดงถึงความไว้วางใจ ทำให้สภาพจิตใจของ โกเมส ดูมั่นคง และนิ่ง มากขึ้น

หลังจากนั้น โกเมส ก็สามารถเรียกฟอร์มเก่าๆ โชว์การเซฟระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง มีส่วนสำคัญต่อการกลับมาผงาดอีกคร้งของทีมในช่วงหลัง หากให้การประเมินสำหรับนักเตะผู้มาใหม่และต้องปรับตัวเข้ากับสโมสรใหม่ และฟุตบอลสไตล์ใหม่ๆ ผมก็ถือว่า โกเมส สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีทีเดียวสำหรับฤดูกาลแรกกับทีมที่มีปัญหาที่กองหลังมาตลอดอย่างนี้

ประเมินเกรดที่ได้ : B

สับไก่รายตัว ->อลัน ฮัตตัน
เป็นปีที่น่าผิดหวังมากๆสำหรับ "ไอ้เถื่อน" อลัน ฮัตตัน นักเตะที่กล้าแม้กระทั่งต่อยหน้าพ่อตัวเอง หลังจากที่ฤดูกาลที่แล้วย้ายมาร่วมทีมและกลายเป็นตัวหลักของทีม โชว์ผลงานได้อย่างดีเยี่ยมสมฉายา "คาฟูผิวขาว"

แต่ดันดวงแตกได้รับบาดเจ็บปิดเทอมยาวไปนานจนแฟนไก่ชักจะลืมเลือน และโดน เวดราน ชอร์ลูก้า นักเตะสารพัดประโยชน์ที่ย้ายมาจาก แมน ซิติ้ โชว์ฟอร์มเด่นกลบไปซะมิดเสียอีก

โชคดีที่ช่วงปลายฤดูกาล กองหลังเรามีอาการบาดเจ็บ ทำให้ ชอร์ลูก้าเขยิบไปยืนด้านไหน ทำให้ ฮัตตันได้มีโอกาสลงเล่นบ้างในปีนี้

โดยฤดูกาลนี้ ฮัตตันลงเล่นไปแค่ 11 นัด เป็นตัวจริง 8 นัด สำรองเปลี่ยนลงไปเสีย 3 นัด โดยลงเล่นในลีกไป 8 นัด คาร์ลิ่งคัพ 1 นัด และได้เล่นในถ้วยยูฟ่าคัพอีก 2 นัด โดนไป 2เหลือง ยิงประตูไม่ได้เลย

แต่แนวโน้มของ อลัน ฮัตตัน หลังจากอาการบาดเจ็บยาว ก็กลับมาเล่นได้เกือบใกล้เคียงของเดิม เพียงแต่จังหวะการขับเคลื่อนกับทีมยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าที่ควร แต่ฤดูกาลหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ของ ฮัตตัน กับการท้าทายตำแหน่งกับ ชอร์ลูก้า และยังมี ชิมบงด้า กองหลังจอมเก๋าอีกคนในตำแหน่งนี้ และที่ลืมไม่ได้คือ เจ้าหนู คริส กันเทอร์ ที่กลับมาจากการยืมตัวแล้ว ฤดูกาลหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ที่แท้จริงสำหรับ อลัน ฮัตตัน

ประเมินผลงานในฤดูกาลนี้ ถือว่าสอบตกอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากอาการบาดเจ็บรุมเร้ามายาวนาน

ประเมินเกรดที่ได้ : F

สับไก่รายตัว ->ไมเคิ่ล ดอว์สัน
กลับมาสับไก่กันต่อครับ วันนี้ถึงคิวของ ไมเคิ่ล ดอว์สัน หนึ่งในนักเตะที่แฟนไก่หลายๆคนอาจจะร้อง ยี้ แต่ในซีซั่นนี้ ดอว์สัน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความพยายามและความมุ่งมั่นที่แสดงให้เห็นทำให้ ดอว์สันกลายเป็นหนึ่งในขวัญใจแฟนบอล และได้รับการโหวตจากแฟนบอลให้เป็นนักเตะในทีมยอดเยี่ยมของทีมที่ดีที่สุดแห่งปีด้วย

ดอส์สัน ในฤดูกาลนี้ก้าวหน้าขึ้นจากเดิมมาก จากที่เคยเป็นบ่อน้ำมันในแผงหลัง ดอว์สัน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความทุ่มเทที่พัฒนาขึ้นมา หลายๆครั้งที่ ดอว์สันเป็นผู้เล่นตัวสุดท้ายในการปกป้องการเสียประตูของทีม และจุดเด่นคือหัวใจที่สู้เกินร้อย

โดยในปีนี้ ดอว์สันได้ลงเล่นไป 28 นัด ก่อนได้รับอาการบาดเจ็บในช่วงปลายฤดูกาล โดย เล่นในพรีเมียร์ลีกไป 16 นัด (เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงมา 3 นัด) เอฟเอ คัพ 2 นัด ลีคคัพ 5 นัด และฟุบอลยุโรปอีก 5 นัด(เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงมา 1 นัด)

ผลงานโดยรวมปีนี้ต้องยอมรับจริงว่า ดอว์สัน ช่วยทีมได้มาก ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในยามที่ทีมขาดตัวที่ไว้ใจได้ในแผงหลัง หากเป็นเมื่อก่อนเราอาจจะหวั่นใจยามเมื่อ ดอว์สัน ได้ลงสนามแทน คิง หรือ วู๊ดเกต ที่ไม่อาจลงสนามได้ แต่ซีซั่นพิสูจน์ให้เห็นว่า ดอว์สัน พัฒนาขึ้นมากจริงๆ

ประเมินเกรดที่ได้ : A

สับไก่รายตัว -> เล็ดลีย์ คิง
สำหรับ "สับไก่รายตัว " วันนี้มาถึง เล็ดลีย์ คิง กัปตันทีมของเรา ถึงแม้ช่วงหลังจะโดนยึดปลอกแขนในสนามไปให้กับ ร๊อบบี้ คีน เนื่องด้วยสภาพทางร่างกายของ คิง ที่ สามวันดีสีวันไข้ แต่ก็ถือว่าปีนี้ คิง ได้เล่นมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมาในช่วงหลัง

โดยปีนี้ลงเล่นไปถึง 29 นัด ยิงได้ 1 ประตู ได้ 2 ใบเหลือง โดยเล่นในลีกไปถึง 24 นัด ใน คาร์ลิ่ง คัพ อีก 2 นัด และฟุตบอลยุโรปอีก 3นัด ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

และการได้ คิง มายืนในแผงหลัง ทำให้ทีมเรามีแผงกองหลังที่ดูเหนียวแน่นขึ้น (ถึงแม้หลายๆนัดจะน่าเตะก็ตาม) คิงเ ป็นกองหลังที่อ่านเกมได้ดี มีความแข็งแกร่งและเล่นลูกลางอากาศได้ดี แถมการเล่นบนพื้นก็ทำได้ดีไม่แพ้กองกลางบางคนเลยทีเดียว

แต่ด้วยปัญหาสภาพอาการบาดเจ็บทำให้ คิงไปไม่ถึงฝั่งฝัน ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษไปแล้วก็ได้ ฤดูกาลที่ผ่านมา คิง โชว์ฟอร์มได้ดี เป็นศูนย์กลางของเพื่อนร่วมทีม การมี คิงบัญชาการในเกมรับ ทำให้เพื่อนร่วมทีมอุ่นใจได้มากขึ้น หลายๆครั้งช่วยทีมได้ในจังหวะสำคัญๆ

แต่น่าเสียดายที่พฤติกรรมนอกสนามในช่วงปลายฤดูกาล ที่เมาเละตุ้มเปะไปบดบังผลงานที่ถือว่าฟอร์มเยี่ยมที่สุดของ คิง ในรอบหลายปี น่าเสียดายที่ทำให้ภาพของกัปตันทีมต้องมัวหมองหลังแสดงอาการเมาแล้วกร่าง จนทำให้เสียทั้งต่อตัว คิงเองในฐานะนักเตะและกัปตันทีมของสโมสรอีกด้วย

ประเมินเกรดที่ได้ : B-

สับไก่รายตัว ->เวดราน ชอร์ลูก้า
กลับมาสับไก่กันต่อ มาที่กองหลังของเราอีกคนในวันนี้ครับ นั่นคือ เวดราน ชอร์ลูก้า นักเตะสารพัดประโยชน์ที่ผมมองว่าเป็นการซื้อที่คุ้มค่าคนหนึ่งของเราในซีซั่นนี้ ถึงแม้จะย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลเกือบ 8.5 ล้านปอนด์ แต่มองประโยชน์การใช้งานแล้ว ชอร์ลูก้า สามารถเล่นได้ ทั้งแบ้คขวา แบ็คซ้าย เซ็นเตอร์ฮาฟ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับนักเตะโครเอเชียคนนี้

แถมอายุก็พึ่งจะ 22 ปีเท่านั้น บางคนคงอาจจะนึกว่า ชอร์ลูก้า อายุ 28-29 ไปแล้ว เพราะช่วงนึงเล่นไว้เครา ไว้ผมยาวซะหน้าแก่ แถมฟอร์มก็เยี่ยมเกินอายุไปอีก ใครจะคิดว่ายังเป็นนักเตะอายุน้อยขนาดนี้

ซีซั่นทีผ่านมา ชอร์ลูก้า ลงเล่นไป 41 นัด ลงเล่นในลีกไป 31 นัด (เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงไป 1นัด) เอฟเอ คัพ 2 นัด และคาร์ลิ่งคัพอีก 5 นัด ส่วนบอลยุโรปติดคัพไทไม่สามารถลงเล่นได้

การได้ตัว ชอร์ลูก้า มาร่วมทีมเราถือว่าได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะชอร์ลูก้า เป็นนักเตะแบ็คขวาที่อ่านเกมได้ดี ชั้นเชิงและเทคนิคสูง ถึงแม้ว่าเกมรุกอาจจะเติมเกมรุกได้ไม่ดีเท่า อลัน ฮัตตัน แต่ได้การยืนตำแหน่งในเกมรับมที่ดีกว่ามาแทน

บางครั้งทีมเรา เซ็นเตอร์ฮาฟ มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ชอร์ลูก้า ก็เข้าไปเติมเต็มในตำแหน่งนั้นได้อย่างไม่มีปัญหา ดังนั้นเงิน 8.5 ล้านปอนด์ที่เราทุ่มซื้อมาจาก แมนซิติ้ จึงถือว่าไม่ใช่เงินที่แพงเลย หากเทียบกับศักยภาพของนักเตะคนนี้

ประเมินเกรดที่ได้ : A

สับไก่รายตัว ->โจนาธาน วู๊ดเกต
สับไก่รายตัววันนี้มาถึงคิวกองหลังของเราอีกคนนึงครับ คือ โจนาธาน วู๊ดเกต ซึ่งต้องบอกว่าปีนี้ผลงานโดยรวมดูตกลงไปมากเมื่อเทียบกับผลงานของฤดูกาลที่แล้ว

ปีนี้ วู๊ดดี้ ลงเล่นทั้งหมดไปถึง 44 นัด ยิงได้ 1 ประตู มี 7 ใบเหลือง โดยเล่นในลีกไปถึง 34 นัด เอฟเอ คัพ 1 นัด คาร์ลิ่งคัพ 4 นัด และฟุตบอลยุโรปอีก 5 นัด

อย่างที่เห็นจำนวนนัดที่ลงเล่นต่อเนื่องยาวนานย่อมมีหลุดผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดา และธรรมชาติของ วู๊ดดี้ เป็นกองหลังสไตล์เชิงสูง คืออ่านเกมมากกว่าการเน้นลูกหนักสไตล์เข้าปะทะ ถึงลูกถึงคน

บางครั้งการยืนกับกองหลังของทีมเราที่ส่วนมากเป็นพวกสไตล์เชิงสูง ไม่ว่าจะเป็น เล็ดลีย์ คิง หรือ ชอร์ลูก้า ทำให้บางครั้งทีมก็เสียประตูไปแบบง่ายๆอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าเจอพวกกองหน้าสไตล์แข็งแกร่ง จะเป็นปัญหาทันที

ในฤดูกาลที่ผ่านมา วู๊ดเกต แทบจะเป็นกองหลังตัวหลักคนเดียวที่ได้เล่นมากกว่ากองหลังคนอื่น ถ้าไม่เจออาการบาดเจ็บรบกวน ผลงานก็ถือว่าเข้าขั้นใช่ได้ เป็นตัวหลักของทีมในแผงหลัง ประสบการณ์และทักษะการเล่นช่วยทีมได้ดี แต่ก็ไม่ถือว่าโดดเด่นอะไรในฤดูกาลนี้

ประเมินเกรดที่ได้ : B-

สับไก่รายตัว ->วิลสัน ปาลาซิออส
มาสับไก่ตัวต่อไปที่ถึงแม้จะเป็นไก่หน้าใหม่ แต่ก็โชว์ฟอร์มได้ไฉไลเอามากๆ สำหรับ วิลสัน ปาลาซิออส นักเตะค่าตัว 12 ล้านปอนด์ ที่ตอนแรกผมก็ว่ามันแพงเอามากๆ สำหรับนักเตะคนนี้ เพราะถึงเคยเห็นฟอร์มการเล่นที่ วีแกนมาบ้าง แต่มันก็ไม่น่าที่จะมีค่าคัวมหาศาลแบบนั้น
แต่พอได้เห็นการเล่นให้กับทีมเรา คงต้องบอกว่านี่แหละใช่เลย กองกลางตัวรับในฝันที่หามานาน นักเตะที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง รักษาหน้าที่ รักษาตำแหน่ง ช่วยสกรีนเกมรุกคู่ต่อสู้ก่อนถึงแดนตัวเอง ช่วยเกมรับของทีมได้เยอะ

ปาลาซิออส เป็นนักเตะที่สไตล์แข็งแกร่ง ดุดัน วิ่งไล่ได้ไม่มีหมด จุดเด่นอยู่ที่การแย่งบอลมาครอง ที่ทำได้เนียนตาเอามากๆ หลายๆครั้งที่แย่งบอลกลับมาครอง และส่งบอลให้เพื่อนเล่นบอลง่ายๆ จนทำให้เกมของทีมดูไหลลื่นมากขึ้น

ถึงแม้ปีนี้จะได้ลงเล่นให้เราเพียงแค่ 12นัด โดยเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 11 นัด ได้ไป 3 เหลือง 1 แดง และเล่นในฟุบอลยุโรปอีก 1 นัดได้ ไป 1 เหลือง แต่ก็ถือว่า 12 นัดทีลงเล่นให้ทีมเราโชว์ฟอร์มได้เข้าตาเกือบทุกนัด

คาดว่าในฤดูกาลหน้า วิลสัน ปาลาซิออส นี่แหละคือคีย์แมนคนสำคัญคนนึงที่จะพาทีมเราไปสู้เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ โปรดจับตานักเตะคนนี้ไว่ให้ดี

สับไก่รายตัว ->ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน
มาสับไก่กันต่อ วันนี้ถึงคิว ไอ้หนูดาวรุ่ง ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน นักเตะดาวรุ่งที่ไม่รู้ว่าฤดูกาลหน้าจะยังอยู่กับทีมต่อไปอีกหรือเปล่า เพราะเจ้าตัวเองคงอยากได้ลงเล่นมากกว่านี้

หลายๆคนคงรู้ถึงขีดความสามารถของ ทอมมี่ เป็นอย่างดี ด้วยการเล่นที่มีทักษะสูงขัดกับกับรูปร่างสูงใหญ่ แต่เจ้าหนู ทอมมี่ ก็มีการเล่นที่สวยงาม การวางบอลยาวสวยๆ การควบคุมบอล และการยิงไกลที่หนักหน่วง คือจุดเด่นของนักตะรายนี้

แต่น่าเสียดายที่พื้นที่ตรงกลาง มี ปาลาซิออส คอยขวางอยู่และอีกพื้นที่นึงเป็นของ "เทพโจ้ " ที่ยังไงก็ได้ลง และยังมี โซโกร่า รอสอดแทรกอยู่อีก ทำให้โอกาสได้ลงเล่นของ ฮัดเดิ้ลสตัน ไม่สดใสมากนัก

ปีนี้ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 31 นัด ยิงได้ 2 ประตู โดยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 22 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 8 นัด) เอฟเอคัพ 1 นัด คาร์ลิ่งคัพ 2 นัด และฟุตบอลยุโรป 6 นัด (สำรองเปลี่ยนลงมา 1 นัด)

ฮัดเดิ้ลสตัน มีโอกาสมากขึ้นในช่วงท้ายของฤดูกาล และก็ทำให้การเล่นของทีมมีมิติมากขึ้น การจ่ายบอลยาวช่วยสร้างโอกาสให้กับทีม หากทีมเราในฤดูกาลหน้า มี ฮัดเดิ้ลสตัน ลงเล่นตรงกลางร่วมกับ ปาลาซิออส กองกลางเราจะดูดีมีชาติตระกูลมากขึ้น ทำให้เกมตรงกลางดูแน่นขึ้น โมดริช ก็สามารถทำเกมได้อย่างอิสระ ไม่ต้องห่วงเกมรับมากนัก และหากเป็นไปตาม ข่าว ถ้า จีนัส และ โซโกร่า ย้ายไปจริง โอกาสของ ฮัดเดิ้ลสตัน ก็มีมากขึ้นในทีมเช่นเดียวกัน

ประเมินเกรดที่ได้ : B-

สับไก่รายตัว ->เจมี่ โอฮาร่า
วันนี้มาสับไก่กันต่อกับ เจมี่ โอฮาร่า นักเตะดาวรุ่งที่ทีมเราสร้างขึ้นมาจากเอง(ถึงแม้จะเคยไปอยู่กับไอ้เน่ามาก่อน) หลังจากถูกปล่อยให้ไปยืมตัวหาประสบการณ์ กับ มิลล์วอลล์ โอฮาร่า ถูก รามอส ดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว ในฤดูกาลที่แล้ว และโชว์ฟอร์มได้ประทับใจจนกลายเป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมปีนั้นของสโมสร

ทำให้หลายๆคนคาดว่าปีนี้น่าจะเป็นโอกาสของ เจมี่ โอฮาร่า แต่ด้วยการแข่งขันสูงของตำแหน่งกองกลางภายในทีม ทำให้โอกาส ของ โอฮาร่า มีน้อยเหลือเกินในปีนี้ ยิ่งหลังการจากไปของ "ป๋าดันส่วนตัว " อย่าง ฆวนเด้ รามอส ด้วยแล้ว ทำให้ โอฮาร่าได้รับโอกาสเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่

ปีนี้ โอฮาร่า ลงเล่นไปทั้งหมด 28 นัด ยิงได้ 4 ประตู โดยลงเล่นในลีกไป 15 นัด (เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงมา 9 นัด) ยิงได้ 1 ประตู เอฟเอ คัพ 1 นัด คาร์ลิ่ง คัพ 6 นัด (เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงมา 2 นัด) ยิงได้ 2 ประตู และฟุตบอลยุโรป 6 นัด (เป็นตัวสำรองเปลี่ยนลงมา 2 นัด) ยิงได้อีก 1 ประตู

จะเห็นโอกาสของ โอฮาร่า ในปีนี้มีน้อยเหลือเกินที่จะได้แสงดผลงานอย่างต่อเนื่อง โอฮาร่า เล่นเด่นเป็นบางนัด และก็หายไปเป็นพักๆเหมือนกับฟอร์มดาวรุ่งโดยทั่วไปที่ยังหาความแน่นอนไม่ได้ และจนบัดนี้ ลุงจ่ายังไม่สามารถดึงความสามารถและหาตำแหน่งที่เหมาะสมของ โอฮาร่า ออกมาได้ และคิดว่าตำแหน่งที่เหมาะสมจริงของ โอฮาร่า คือ มิดฟิลด์ตัวกลาง หรือปีกซ้าย จึงจะสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีกว่านี้

ในฤดูกาลหน้าจะเป็นบทพิสูจน์ว่า โอฮาร่าจะก้าวพ้นคำว่าดาวรุ่งเพื่อขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับทีมเราเป็นอย่างยิ่ง

ประเมินเกรดที่ได้ : C+